วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2552
บุคคลที่น่าสนใจในงานเกษตร
วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
นวัตกรรมในการสอนคณิตศาสตร์
นวัตกรรม เรื่อง แบบฝึกพัฒนาทักษะการคูณ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
นางวาสนา วรศักดิ์
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
โรงเรียนเทศบาล ๒ (วัดช่องลม)
สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย
บทคัดย่อ การศึกษาครั้งนี้ เป็นการสร้างและพัฒนาแบบฝึกพัฒนาทักษะการคูณ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 8 เล่ม โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างแบบฝึกพัฒนาทักษะการคูณ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ของนักเรียนที่เรียนรู้ด้วยแบบฝึกพัฒนาทักษะการคูณ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ระหว่างคะแนนก่อนเรียนรู้และหลังเรียนรู้ และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อแบบฝึกพัฒนาทักษะการคูณ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่าง เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2551 โรงเรียนเทศบาล ๒ (วัดช่องลม) เทศบาลเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี จำนวน 30 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล แบบฝึกพัฒนาทักษะการคูณ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ซึ่งมีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.47/87.33 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 30 ข้อ เป็นข้อสอบแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 3 ตัวเลือก มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.83 และแบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกพัฒนาทักษะการคูณ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 10 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.79
ผลการศึกษาพบว่า 1. แบบฝึกพัฒนาทักษะการคูณ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.47/87.33 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 2. นักเรียนที่เรียนรู้ด้วยแบบฝึกพัฒนาทักษะการคูณ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้หลังเรียนรู้สูงกว่าก่อนเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .01 3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีความพึงพอใจต่อแบบฝึกพัฒนาทักษะการคูณ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
http://www.thaigoodview.com/node/20923
นางวาสนา วรศักดิ์
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
โรงเรียนเทศบาล ๒ (วัดช่องลม)
สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย
บทคัดย่อ การศึกษาครั้งนี้ เป็นการสร้างและพัฒนาแบบฝึกพัฒนาทักษะการคูณ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 8 เล่ม โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างแบบฝึกพัฒนาทักษะการคูณ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ของนักเรียนที่เรียนรู้ด้วยแบบฝึกพัฒนาทักษะการคูณ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ระหว่างคะแนนก่อนเรียนรู้และหลังเรียนรู้ และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อแบบฝึกพัฒนาทักษะการคูณ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่าง เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2551 โรงเรียนเทศบาล ๒ (วัดช่องลม) เทศบาลเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี จำนวน 30 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล แบบฝึกพัฒนาทักษะการคูณ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ซึ่งมีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.47/87.33 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 30 ข้อ เป็นข้อสอบแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 3 ตัวเลือก มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.83 และแบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกพัฒนาทักษะการคูณ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 10 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.79
ผลการศึกษาพบว่า 1. แบบฝึกพัฒนาทักษะการคูณ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.47/87.33 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 2. นักเรียนที่เรียนรู้ด้วยแบบฝึกพัฒนาทักษะการคูณ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้หลังเรียนรู้สูงกว่าก่อนเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .01 3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีความพึงพอใจต่อแบบฝึกพัฒนาทักษะการคูณ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
http://www.thaigoodview.com/node/20923
เรียนรู้ภาษาอังกฤษ
ความรู้ที่ได้
ทำให้ได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษที่เขานิยมเรียนรู้กันในแต่ละวัน
ของคนอังกฤษ
http://www.intereladsd.blogspot.com/
ข่าวit
หนอนไวรัสกลายพันธุ์ติดไฟล์ได้สารพัด
Rated 3.25/5 (4 Votes)
1 2 3 4 5 จำนวนผู้อ่าน 527 คน
โดย กองบรรณาธิการเว็บไซต์ ARiP.co.th - 23 พฤศจิกายน 2552 เวลา 09:02 น.
พิมพ์หน้านี้ ส่งหน้านี้ให้เพื่อน บทความที่เกี่ยวข้อง
แสดงความคิดเห็นปรับขนาดอักษร Share [เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] รายงานข่าวล่าสุด National Computer Virus Emergency Response Center ของจีนระบุว่า หนอนไวรัส Worm_Piloyd.B ที่มีการกลายพันธุ์ได้ออกอาละวาดอีกครั้ง โดยการกลับมาของหนอนร้ายตัวนี้พบว่า มันสามารถแพร่กระจายไปกับไฟล์ได้หลากหลายชนิดกว่าเดิม แถมยังดื้อด้านต่อการกำจัดออกไปอีกด้วย
พื้นที่โฆษณา
สนใจลงโฆษณา ติดต่อ โทร.0-2642-3400 ต่อ 4613
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า เมื่อคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ติดหนอนไวรัสตัวนี้เข้าไปแล้ว มันจะสามารถแพร่กระจายตัวเองไปกับไฟล์ชนิดต่างๆ ได้หลากหลายชนิด อย่างเช่น ไฟล์ที่สั่งรันได้ (.exe) ไฟล์เอกสารเว็บ (.html) ตลอดจนไฟล์สคริปท์ (.asp) และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากจะแพร่กระจายได้หลายช่องทางแล้ว มันยังสามารถป้องกันตัวเองไม่ให้ระบบสามารถเข้าไปแก้ไขไฟล์ที่โดนเล่นงานได้อีกด้วย โดยสามารถยับยั้งการทำงานของแอนตี้ไวรัสที่อยู่ในระบบได้
Worm-Piloyd.B มีวัตถุประสงค์ที่จะป่วนเครื่องของผู้ที่โดนเล่นงานอย่างหนัก โดยไม่เพียงแต่จะทำให้เครื่องเต็มไปด้วยไฟล์ที่ติดมันเข้าไปเท่านั้น แต่ยังบังคับให้ระบบเชือมต่อเน็ตเข้าไปยังเว็บไซต์ที่เต็มไปด้วยโทรจัน ไวรัส และมัลแวร์ต่างๆ เพื่อดาวน์โหลดเข้ามาติดตั้งในเครื่องของเหยื่ออีกด้วย ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์อัพเดตแอนตี้ไวรัสเป็นการด่วน และควรเปิดระบบการสอดส่องภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ เพื่อป้องกันการเข้าโจมตีของหนอนไวรัสตัวนี้เป็นการด่วน
ข้อมูลจาก: Scottrade
Tags: หนอน ไวรัส worm virus html asp exe
เรื่องที่เกี่ยวข้องhttp://www.arip.co.th/news.php?id=410373
Rated 3.25/5 (4 Votes)
1 2 3 4 5 จำนวนผู้อ่าน 527 คน
โดย กองบรรณาธิการเว็บไซต์ ARiP.co.th - 23 พฤศจิกายน 2552 เวลา 09:02 น.
พิมพ์หน้านี้ ส่งหน้านี้ให้เพื่อน บทความที่เกี่ยวข้อง
แสดงความคิดเห็นปรับขนาดอักษร Share [เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] รายงานข่าวล่าสุด National Computer Virus Emergency Response Center ของจีนระบุว่า หนอนไวรัส Worm_Piloyd.B ที่มีการกลายพันธุ์ได้ออกอาละวาดอีกครั้ง โดยการกลับมาของหนอนร้ายตัวนี้พบว่า มันสามารถแพร่กระจายไปกับไฟล์ได้หลากหลายชนิดกว่าเดิม แถมยังดื้อด้านต่อการกำจัดออกไปอีกด้วย
พื้นที่โฆษณา
สนใจลงโฆษณา ติดต่อ โทร.0-2642-3400 ต่อ 4613
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า เมื่อคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ติดหนอนไวรัสตัวนี้เข้าไปแล้ว มันจะสามารถแพร่กระจายตัวเองไปกับไฟล์ชนิดต่างๆ ได้หลากหลายชนิด อย่างเช่น ไฟล์ที่สั่งรันได้ (.exe) ไฟล์เอกสารเว็บ (.html) ตลอดจนไฟล์สคริปท์ (.asp) และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากจะแพร่กระจายได้หลายช่องทางแล้ว มันยังสามารถป้องกันตัวเองไม่ให้ระบบสามารถเข้าไปแก้ไขไฟล์ที่โดนเล่นงานได้อีกด้วย โดยสามารถยับยั้งการทำงานของแอนตี้ไวรัสที่อยู่ในระบบได้
Worm-Piloyd.B มีวัตถุประสงค์ที่จะป่วนเครื่องของผู้ที่โดนเล่นงานอย่างหนัก โดยไม่เพียงแต่จะทำให้เครื่องเต็มไปด้วยไฟล์ที่ติดมันเข้าไปเท่านั้น แต่ยังบังคับให้ระบบเชือมต่อเน็ตเข้าไปยังเว็บไซต์ที่เต็มไปด้วยโทรจัน ไวรัส และมัลแวร์ต่างๆ เพื่อดาวน์โหลดเข้ามาติดตั้งในเครื่องของเหยื่ออีกด้วย ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์อัพเดตแอนตี้ไวรัสเป็นการด่วน และควรเปิดระบบการสอดส่องภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ เพื่อป้องกันการเข้าโจมตีของหนอนไวรัสตัวนี้เป็นการด่วน
ข้อมูลจาก: Scottrade
Tags: หนอน ไวรัส worm virus html asp exe
เรื่องที่เกี่ยวข้องhttp://www.arip.co.th/news.php?id=410373
วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
ข่าวไอทีในวันนี้
วันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 33 ฉบับที่ 4160 ประชาชาติธุรกิจ
วิกฤตและโอกาส ทิศทางของโอเพ่นซอร์ซ
คอลัมน์ ไอทีทะลุโลก
โดย siripong@kidtalentz.com
ปฏิกิริยาสะท้อนกลับที่เห็นได้ชัดเจนประการหนึ่งของมาตรการปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์อย่างเข้มงวดจริงจัง ก็คือการอพยพมาสู่ "โอเพ่นซอร์ซซอฟต์แวร์" ในระยะนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปลี่ยนแปลงถึงระบบปฏิบัติการมาสู่ "ลีนุกซ์" ใครที่สัมผัสอยู่ในชุมชนโอเพ่นซอร์ซจะรู้สึกได้อย่างชัดเจน
กระทั่ง "ซิป้า" ยังสนองกับความต้องการดังกล่าวด้วยการออก "จันทรา" ซึ่งเป็นซีดีรวมซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ซสำหรับฝั่งวินโดวส์เวอร์ชั่นขัดตาทัพก่อนกำหนด เปิดให้ดาวน์โหลดกันไปแล้วเมื่อไม่กี่วันมานี้ จากประสบการณ์ส่วนตัวเท่าที่เห็นในตอนนี้ ทั้งบริษัทเอกชน สถานศึกษา และรวมไปถึงหน่วยงานรัฐบางแห่ง ที่กำลังอพยพมาสู่โอเพ่นซอร์ซกันอย่างฉุกละหุก แต่ละองค์กรมีเครื่องคอมพิวเตอร์จำนวนไม่น้อยตั้งแต่เป็นสิบ ๆ เครื่องไปจนถึงเป็นร้อย ๆ เครื่อง
ด้านหนึ่งของปรากฏการณ์นี้ก็คือมันจะผลักดันให้ "โอเพ่นซอร์ซ" ในเมืองไทยเติบโตขึ้นไปอีกระดับ เมื่อความต้องการ สูงขึ้น การตอบสนองด้วยการพัฒนาซอฟต์แวร์ให้สอดคล้องกับความต้องการก็จะเกิดตามมา โดยเฉพาะสำหรับด้านธุรกิจแล้วมีความต้องการอีกหลาย ๆ อย่าง เช่น โปรแกรมทางด้านบัญชี โปรแกรมจัดการการซื้อขายหรือ POS เป็นต้น ซึ่งสำหรับในบ้านเราแล้วยังขาดแคลน
ทว่าปัญหาก็ปรากฏตามมาด้วยเช่นกัน ชุมชนโอเพ่นซอร์ซเมืองไทยแม้จะเข้มแข็งอยู่ในระดับหนึ่ง แต่ไม่มากพอจะตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้น
อย่างพรวดพราด ขาดแคลนทั้งบุคลากรและความเชี่ยวชาญ ขนาดแม้กระทั่งศูนย์รวมข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งโอเพ่นซอร์ซ ซอฟต์แวร์ในเมืองไทยที่จะเป็นช่องทางให้คนเข้าไปแสวงหาคำตอบทั้งเรื่องทางเทคนิค บุคลากร หรือความรู้ต่าง ๆ รวมไปจนกระทั่งถึงซอฟต์แวร์
ยกตัวอย่าง เช่น บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์หลายสิบเครื่อง และเริ่มอพยพไปสู่ลีนุกซ์แล้ว ต้องการบุคลากรเพื่อฝึกอบรมการใช้แอปพลิเคชั่นบางตัว เช่น โอเพ่นออฟฟิศ ให้กับพนักงานประมาณ 50 คน แหล่งข้อมูลที่จะให้คำตอบว่าจะหาบุคลากรได้ที่ไหน กลับกลายเป็นเว็บบอร์ดของเหล่าอาสาสมัครที่ใจรักโอเพ่นซอร์ซ เป็นต้น
ความจริงแล้วในสถานการณ์แบบนี้ "ซิป้า" ซึ่งก็ชูนโยบายผลักดันโอเพ่นซอร์ซซอฟต์แวร์เช่นกัน น่าจะมีแผนเร่งด่วนเฉพาะหน้าเพื่อรับมือมากกว่าแค่การออกชุดรวมซอฟต์แวร์ก่อนกำหนดที่ทำไปแล้ว
มีอะไรให้ทำอีกเยอะในจังหวะแบบนี้โดยไม่ต้องออกแรงเองมากนัก
http://www.prachachat.net/view_news.php?newsid=02com04231152§ionid=0209&day=2009-11-23
วิกฤตและโอกาส ทิศทางของโอเพ่นซอร์ซ
คอลัมน์ ไอทีทะลุโลก
โดย siripong@kidtalentz.com
ปฏิกิริยาสะท้อนกลับที่เห็นได้ชัดเจนประการหนึ่งของมาตรการปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์อย่างเข้มงวดจริงจัง ก็คือการอพยพมาสู่ "โอเพ่นซอร์ซซอฟต์แวร์" ในระยะนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปลี่ยนแปลงถึงระบบปฏิบัติการมาสู่ "ลีนุกซ์" ใครที่สัมผัสอยู่ในชุมชนโอเพ่นซอร์ซจะรู้สึกได้อย่างชัดเจน
กระทั่ง "ซิป้า" ยังสนองกับความต้องการดังกล่าวด้วยการออก "จันทรา" ซึ่งเป็นซีดีรวมซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ซสำหรับฝั่งวินโดวส์เวอร์ชั่นขัดตาทัพก่อนกำหนด เปิดให้ดาวน์โหลดกันไปแล้วเมื่อไม่กี่วันมานี้ จากประสบการณ์ส่วนตัวเท่าที่เห็นในตอนนี้ ทั้งบริษัทเอกชน สถานศึกษา และรวมไปถึงหน่วยงานรัฐบางแห่ง ที่กำลังอพยพมาสู่โอเพ่นซอร์ซกันอย่างฉุกละหุก แต่ละองค์กรมีเครื่องคอมพิวเตอร์จำนวนไม่น้อยตั้งแต่เป็นสิบ ๆ เครื่องไปจนถึงเป็นร้อย ๆ เครื่อง
ด้านหนึ่งของปรากฏการณ์นี้ก็คือมันจะผลักดันให้ "โอเพ่นซอร์ซ" ในเมืองไทยเติบโตขึ้นไปอีกระดับ เมื่อความต้องการ สูงขึ้น การตอบสนองด้วยการพัฒนาซอฟต์แวร์ให้สอดคล้องกับความต้องการก็จะเกิดตามมา โดยเฉพาะสำหรับด้านธุรกิจแล้วมีความต้องการอีกหลาย ๆ อย่าง เช่น โปรแกรมทางด้านบัญชี โปรแกรมจัดการการซื้อขายหรือ POS เป็นต้น ซึ่งสำหรับในบ้านเราแล้วยังขาดแคลน
ทว่าปัญหาก็ปรากฏตามมาด้วยเช่นกัน ชุมชนโอเพ่นซอร์ซเมืองไทยแม้จะเข้มแข็งอยู่ในระดับหนึ่ง แต่ไม่มากพอจะตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้น
อย่างพรวดพราด ขาดแคลนทั้งบุคลากรและความเชี่ยวชาญ ขนาดแม้กระทั่งศูนย์รวมข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งโอเพ่นซอร์ซ ซอฟต์แวร์ในเมืองไทยที่จะเป็นช่องทางให้คนเข้าไปแสวงหาคำตอบทั้งเรื่องทางเทคนิค บุคลากร หรือความรู้ต่าง ๆ รวมไปจนกระทั่งถึงซอฟต์แวร์
ยกตัวอย่าง เช่น บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์หลายสิบเครื่อง และเริ่มอพยพไปสู่ลีนุกซ์แล้ว ต้องการบุคลากรเพื่อฝึกอบรมการใช้แอปพลิเคชั่นบางตัว เช่น โอเพ่นออฟฟิศ ให้กับพนักงานประมาณ 50 คน แหล่งข้อมูลที่จะให้คำตอบว่าจะหาบุคลากรได้ที่ไหน กลับกลายเป็นเว็บบอร์ดของเหล่าอาสาสมัครที่ใจรักโอเพ่นซอร์ซ เป็นต้น
ความจริงแล้วในสถานการณ์แบบนี้ "ซิป้า" ซึ่งก็ชูนโยบายผลักดันโอเพ่นซอร์ซซอฟต์แวร์เช่นกัน น่าจะมีแผนเร่งด่วนเฉพาะหน้าเพื่อรับมือมากกว่าแค่การออกชุดรวมซอฟต์แวร์ก่อนกำหนดที่ทำไปแล้ว
มีอะไรให้ทำอีกเยอะในจังหวะแบบนี้โดยไม่ต้องออกแรงเองมากนัก
http://www.prachachat.net/view_news.php?newsid=02com04231152§ionid=0209&day=2009-11-23
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)